ประโยชน์และสมบัติของคาร์โบไฮเดรต
1. สมบัติและการทดสอบคาร์โบไฮเดรต
1.1
สมบัติของคาร์โบไฮเดรต
1.1.1 มีรสหวานเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นพอลิแซกคาไรด์
1.1.2
การละลายน้ำ ละลายในน้ำร้อนและน้ำเย็นได้ง่าย
ยกเว้นพอลิแซกคาไรด์ ไม่ละลายน้ำและการละลายน้ำจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิ
1.1.3
กสนเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกความร้อน
น้ำตาลเมื่อถูกความร้อนสูงจะหลอมตัวและไหม้
1.1.4
เกิดปฏิกิริยาไฮโรไลซิส
1.1.5 เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน เช่น
กลูโคสทำปฏิกิริยากับ Cu2+ ภายใต้ภาวะความร้อนและสารละลายเป็นเบสจะได้กรดกลูโคนิก
1.1.6
เกิดปฏิกิริยารีดักชัน เช่น การถูกรีดิวซ์ของกลูโคสได้เป็นแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า
ซอร์บิทอล
1.2 การทดสอบคาร์โบไฮเดรต
1.2.1. มอนอแซกคาไรด์
สารอินทรีย์ที่มีหมู่คาร์บอนิล (-CO) และหมู่ไฮดรกซิล (-OH) ในโมเลกุลเดียวกันในด่างเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
จะเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหมู่ (-CHO) ดังนี้
เมื่อทดสอบมอนอแซกคาไรด์ด้วยสารละลายเบเนดิกต์
สารละลายเบเนดิกต์ (Benedict solution) เป็นสารละลายผสมระหว่าง CuSO4, Na2CO3 และโซเดียมซิเตรด เป็น Cu2+/OH- มีสีน้ำเงิน
สารอินทรีย์ที่มีหมู่คาร์บอกซาลดีไฮด์ (-CHO)
ต้มกับสารละลายเบเนดิกต์ (Cu2+/OH-)
จะเกิดเกลือของกรดอินทรีย์ และเกิดตะกอนสีแดงอิฐเกิดขึ้น
1.2.2 ไดแซกคาไรด์
เมื่อทดสอบมอนอแซกคาไรด์ด้วยสารละลายเบเนดิกต์จะไม่เกิดปฏิกิริยา
ต้องทำการไฮโดรไลซ์
ไดแซกคารไรด์ด้วยกรดให้เป็นมอโนแซกคาไรด์
แล้วนำมาทำปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ จะเกิด ตะกอนสีแดงอิฐ ดังสมการ
1.2.3 พอลิแซกคาไรด์
พอลิแซกคาไรด์เป็นสารโมเลกุลใหญ่
ทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนจะเกิดสารเชิงซ้อน
สีน้ำเงินแกมดำ
แป้ง + I2 -------------------->สารเชิงซ้อนสีน้ำเงินที่เป็นตะกอน
2. ประโยชน์ของคาร์โบไฮเดรต
2.1 ช่วยให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวเพื่อทำงานหรือประกอบกิจกรรมต่างๆ ได้ (คาร์โบไฮเดรต
1 กรัม จะให้พลังงาน 4 แคลอรี่)
2.2 คาร์โบไฮเดรตจัดเป็นส่วนประกอบของสารที่ทำหน้าที่สำคัญในร่างกายหลายชนิด
เช่น สารจำพวกไกลโคโปตีน (glycoprotein), ไกลโคไลปิด (glycolipid), กรดนิวคลิอิค (nucleic acid) เป็นต้น
2.3 คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งงานที่เรียกว่าโพลีแซ็กคาไรด์สะสม
(Storage polysaccharide) เช่น ไกลโคเจนและแป้ง
ซึ่งเป็นเสมือนแหล่งเสบียงที่เก็บตุนพลังงานไว้ เมื่อร่างกายต้องการใช้พลังงานก็จะถูกย่อยให้เป็นกลูโคสเพื่อใช้เผาผลาญให้ได้พลังงานต่อไป
2.4 คาร์โบไฮเดรตมีความจำเป็นต่อการช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
หากร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอร่างกายจะเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานมากขึ้น
ทำให้เกิดสารประเภทคีโทนมาคั่ง (ketone bodies) ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
2.5 คาร์โบไฮเดรตจะช่วยสงวนคุณค่าของโปรตีนไว้ไม่ให้เผาผลาญเป็นพลังงาน
หากได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเพียงพอ
2.6 คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้จากการเปลี่ยนไปเป็นพลังงานและสร้างไกลโคเจน
ร่างกายจะนำไปใช้ในการสังเคราะห์ไขมันและกรดอะมิโน
2.7 การทำงานของสมองจะต้องพึ่งกลูโคส
(glucose) ซึ่งเป็นตัวให้พลังงานที่สำคัญ
2.8 กรดกลูคูโรนิก (glucuronic acid) (อนุพันธ์ของกลูโคส)
มีหน้าที่เปลี่ยนสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายเมื่อผ่านไปที่ตับ ทำให้มีพิษลดลงและอยู่ในสภาพที่ร่างกายจะสามารถขับถ่ายออกมาได้
2.9 ช่วยทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของผนังเซลล์ในแบคทีเรีย
เซลล์พืชและสัตว์ เช่น ไคตินในกระดองปู วุ้นในสาหร่ายทะเล
และยังทำหน้าที่ทางชีวภาพอื่นๆ เช่น เฮปาริน จะช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด
เป็นต้น
2.10 อาหารจำพวกธัญพืชนอกจากจะมีคาร์โบไฮเดรตแล้ว
ยังเป็นแหล่งที่ให้โปรตีน เกลือแร่ และวิตามินอีกด้วย